day 9 : Calcatta out and about..

รถไฟสว่างที่กัลกัตต้า แต่ยังไม่ถึงสถานีที่เราจะลง รถจอดเทียบท่าจริงๆ ตอนประมาณหกโมงครึ่ง


ตอนลงจากรถไฟ เราเดินกันฉิว รู้ทางเข้าทางออกแล้ว คนไม่เยอะจนน่ากลัวเหมือนตอนวันไป

ออกจากสถานี ได้ยินเสียงบีบแตร พร้อมถูกแท๊กซี่รุมทึ้ง เราไม่สนเดินเชิ่ด เรียกตั้ง 150 แหนะ ขามาแค่ 100 เดียวเอง พอฉันต่อ 100 บางคันเดินหนี sudder street อยู่ตรงนี้เอง ฉันว่านายเรียกแพงเกินไปน่ะ คันที่ยังสู้ราคาอยู่ขอ 110 บอกว่าเป็นค่าจอดรถ เรายอมเพราะขี้เกียจแบกเป้แล้ว

ประมาณครึ่งชั่วโมงเราก็มาถึง sudder street บอกให้แท๊กซี่จอดหน้าโรงแรมที่เราจะพัก เราเดินหาโรงแรมกันก่อนหน้าที่จะไปสิกขิมแล้ว เช็คราคาไว้เรียบร้อยแล้ว บอกคนที่ดูแลโรงแรมว่ากลับจากสิกขิมจะมาพักที่นี่ เราเลือกห้องใหญ่ที่นอนกันได้ 4 คน ราคา 1400 มีแอร์ ทีวี เครื่องทำน้ำอุ่น (อุ่นเฉพาะวันแรก เพราะวันที่สอง นายแอบปิดฮีตเตอร์เรา)

อาบน้ำอาบท่าเสร็จ เราออกมาหาของกินข้างโรงแรมกัน 8 โมงกว่าแล้ว ยังไม่ค่อยมีร้านไหนอยากจะเปิดทำมาหากินกันเลย หลังจากท้องอิ่ม เราจะเที่ยวกัลกัตต้ากันต่อ

จาก Sudder street เราเดินมาตรง India Museum เป็น museum ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ไม่ได้เข้าไปเพราะยังไม่เปิด สิบโมงโน่น ขี้เกียจรอ เราเลยจับ taxi ไป vitoria memorial hall กัน

ถนนในกัลกัตต้า

เปิด 10 โมงเหมือนกัน หลังจากซื้อตั๋ว มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจกระเป๋าอยู่ข้างใน ราคาตั๋วนักท่องเที่ยว 150 รูปี คนอินเดีย 10 รูปี (ทำไมมันต่างกันเช่นนี้หล่ะนาย??)

คนอินเดียรอเข้าเยอะ เราเลยให้เจ้าของบ้านเข้ากันไปก่อน ระหว่างรอให้ป้าแตงงีบสัก 10 นาที เห็นบอกว่าเมื่อคืนนอนในรถไฟไม่ค่อยหลับ ไม่เป็นไร เรามีเวลาเหลือเฟือ ไม่ได้รีบไปไหน วันนี้เราจะเทเวลาให้กัลกัตต้า

ทำไมต้องเดินจับมือกันด้วย??

อยากงีบ จัดไปปปปป

ข้างในอาคารเป็น museum + หอศิลป์ สวยดี แต่ไม่ให้ถ่ายรูป เราเดิน เดิน เดิน ดู ดู ดู จนครบแล้วทุกมุม จึงเดินออกมารับลมนอกอาคาร ... ไปไหนต่อกันดีหว่า?? สมาชิกอยากไปหาร้านกาแฟนั่งชิวๆ ไม่อยากไปดูสะพานแล้ว อยากกินเค้ก อยากกินกาแฟ อยากจิบชา แล้วเราไปที่ไหนกันหล่ะ???

บอกแท๊กซี่คันแรก นายไม่รู้จัก ไม่รู้ ไม่เข้าใจเรา เราเลยโบกคันต่อไป คนขับเป็นลุงแก่ๆ ท่าทางเอี้ยวน่าดู ถามว่าที่นี่มีห้างมั๊ย ลุงบอกว่ามี เอาห้างที่ใหญ่ๆ นะลุง ลุงขับข้ามสะพานมาได้สักพัก รถติดกลางถนน ชี้ให้เราดู ตลาดนั่นหรือเปล่าที่พวกหนูอยากไป อ้าวลุง บอกไปห้าง ไม่ใช่ตลาด สมากชิกตาไว บอกว่ามี kfc คงจะหาร้านกาแฟนั่งได้ เราก็บอก ok ลงที่นี่ก็ได้ ลุงปล่อยเราลงกลางถนนนั่นแหละ จ่ายตังค์ ลงกลางถนน แล้วข้ามไปอีกฟากนึง

วี๊ดวิ้ว.. เราเจอร้านกาแฟแล้ว....

เราสั่ง สั่ง สั่ง ทั้งเค้ก บราวนี่ มัฟฟิ่น ชา กาแฟ น้ำปั่น กินกันเยอะกว่ามื้อหลักเสียอีก

แอร์เย็นสบาย นั่งกันอารมณ์ดี๊ดี ยิ้มแฉ่งกันถ้วนหน้า

เราปักหลักกันที่นั่น ผลัดกันไปเดินดูของ ข้างหน้าเป็นตลาด new market มีของให้ซื้อเยอะอยู่

เราได้ของฝากที่นี่เยอะเหมือนกัน ราคาไม่แพง ต่อได้ แต่พ่อค้ารุมทึ้ง

ที่นี่เหมือนเป็น center point อยู่บน linsay street เดินกลับ sudder street ได้ มีทั้งร้านหนังสือ kfc โรงหนัง ร้านกาแฟ บาร์ ห้าง food chains ตลาด ร้านขายของฝาก ยิ่งเย็นคนยิ่งเยอะ ออกกันมาเหมือนมดแตกรัง แต่เดินดูของเพลินดี

เดินดูสีสันจัดจ้านความเป็นอินเดียได้ที่นี่ ฉันสอยกางเกงอินเดียมาหลายตัว เราเทกระเป๋ากันที่นี่ เก็บตกของฝากกัน

ตาชั่งที่นี่ยังใช้แบบนี้อยู่เลย

ระหว่างทางจาก new market กลับ sudder street

ของฝากถูกใจคนซื้อ ท่าจะได้คนซื้อหมดฮ่ะ

เดินเอาของที่ช็อปมาเก็บที่ห้อง จากนั้นเราออกไปหาข้าวโพดปิ้งกินกันที่แถวๆ ออฟฟิสทาริก ตบด้วยหิ้วข้าวผัดข้างทางไปกินกันที่ห้อง ตบอีกทีด้วยทับทิมหวานๆ แดงได้ใจจริงๆ

วันสุดท้าย กินมันทั้งนั้น ไม่กลัวแระท้องเสีย ไม่มีหร๊อกท้องเสีย มีแต่เอาของเก่าไม่ออก กินกินไป เผื่อจะช่วยดันของเก่าออกมา

ร้านหนังสือ และบาร์แถวที่พัก จอยเล็งไว้ อยากลองนั่งผับแขกดูบ้าง รอให้ค่ำสักหน่อย เราจะมาลองกัน

สอยหนังสือมาได้อีกหนึ่งเล่ม หามานานแล้วเล่มนี้

มื้อค่ำก่อนออกเที่ยวผับกัลกัตต้า

ประมาณ สองทุ่ม จอยอยู่ไม่ติด อยากนั่งผับแขก เราเลยพากันออกมาอีกรอบ ลองเข้าไปนั่งดูผับแถวโรงแรม พอมีคนบ้างแล้ว มีนักร้องแขกเป็นผู้หญิง หันไปทางไหน มีแต่ผู้ชาย มีเรานี่แหละที่เป็นผู้หญิงโต๊ะเดียว เรากะสั่งแค่ดริ๊งเดียว เพราะแค่อยากนั่งดูบรรยากาศ แต่พนักงานให้สั่ง 3 ดริ๊งขึ้นไป small ไม่ได้ ต้อง big เท่านั้น เราไม่เอา เพราะไม่อยากเมา ดูบรรยากาศเหมือนผับบ้านเราเมื่อสิบปีก่อน สรุปเราไม่สั่ง ลุกออกจากผับกลับโรงแรม บอกแล้วแค่อยากดูว่าข้างในเป็นไง

1 comment:

  1. อยากกลับไปซ่อมอาหารเช้าของทุกๆที่..จะเอานมข้นหวานไปกินกะโรตี

    ReplyDelete