day 5 : ลาชุง - ยุมถัง - กังต็อก

ไกด์นัดกินอาหารเช้า 6.30 น. เราตื่นกันก่อน นอนไม่ค่อยหลับ อากาศเย็นมากๆ เย็นเข้าถึงกระดูกโน่น ใส่ไปหลายชั้น หายใจไม่ค่อยออก เห็นข้างนอกสว่างแล้ว ใส่เสื้อกันหนาวตัวหนาๆ คว้ากล้องได้ รีบเดินออกมาสำรวจบริเวณบ้านโชดะ วิวสวยมาก อากาศยังเย็นอยู่ ฝนตกพร่ำๆ

วิวน้ำตก มองจากรั้วข้างบ้านโชดะ

วิวจากหน้าบ้าน


ดอกไม้ก็แถวบ้าน

อาหารเช้าแบบง่ายๆ ชานมร้อนๆ พร้อมขนมปังทาแยม อร่อยนา มีโชดะแกล้มกับอาหารเช้า

ข้าวโพดแห้ง เอาไว้เคี้ยวเล่น

ชาอร่อย

บ้านน่ารัก

ลูกบ้านก็หล่อ ขอแอบถ่ายนิดนึง

เสร็จอาหารเช้า เราขึ้นรถมุ่งหน้าไปยุมถัง สวิสแห่งเอเชีย

ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง วิวข้างทางละลานตามากๆ สวยแบบเย็นๆ ฉันเปิดกระจกให้ลมเย็นๆ พัดปะทะหน้า (ที่บ้านไม่มี ขอซะหน่อย)

ขอนิดนึง

ถึงแล้ว ได้เวลาดอมดม ชมของสวย ยุมถังเป็นชื่อของหุมเขา ช่วงเมษา-พฤษภาเป็นหน้าไฮ ดอกไม้บาน สวยไปอีกแบบ หน้าไฮอีกทีก็ช่วงหิมะตก ธันวา-มกรา ตุลาเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว (มาแล้วหิมะก็ไม่เจอ ดอกไม้ก็ไม่เห็น)

ใส่ถุงเท้ากัน ไม่ต่ำกว่า 2 คู่ แถมเล๊กกิ้งอีกต่างหาก ถ้ามาช่วงหิมะตกทำไงหว่า?

เสียดายไปไม่ถึง zero point อยากกลับมาซ่อม

แวะซื้อถั่ว เอาทั้งแถว อร่อยดี เป็นถั่วเหลืองกรอบ เคี้ยวกันจนปากซีด

ขออีกนิดนึง

อันนี้ขอเป็นคู่ ไกด์ใจดีจริงๆ จัดให้ป้าหมด ได้กันทุกคนไม่ต้องแย่ง!

ตอนนี้เราเริ่มขับลงกันแล้ว อยากอยู่ต่อ แต่เราต้องตีรถยาวกลับกังต็อก

ใบไม้เปลี่ยนสีที่ยุมถัง ต้นเมเปิ้ลก็เยอะ ถ่ายไม่ทัน ลืมบอกให้เจ้าลามะน้อยหยุดรถ

ถนนแบบนี้เรารอดมาได้ ผ่านหมื่นโค้งโดยไม่อ้วก ทีนี้ไปไหนก็ได้

ระหว่างทาง มีป้ายขำๆให้อ่านเยอะ คนที่นี่อารมณ์ดีจริงๆ อันนี้ชอบสุดๆ ไม่นินทานายแล้วจะนินทาใครเล่า?

ตอนเข้าหมู่บ้าน เราให้โชดะจอดรถที่สะพาน แล้วให้ขับกลับบ้านเลย เราจะเดินกันไปเอง ไม่ไกลจากบ้านมากนัก ฝนตกพรำๆ เรามีเสื้อกันฝน ขนไปจากเมืองไทย อยากใช้ ลมพัดเสื้อกันฝนปลิวว่อน กล้องก็ใช้กันกลางฝนนั่นแหละ

กลับถึงบ้านมีอาหารเที่ยงฝีมือนอเซินรออยู่ ทำอาหารได้อร่อย รสชาติจัดดี เช่นเคย เราขอเพิ่มไข่เจียว กินกับปลาร้าที่เอามา อื้มอร๊อยอร่อย

เสร็จมื้อเที่ยง เราเตรียมตัวลา ลาชุง ขนเป้ขึ้นรถ ร่ำลาอย่างอ้อยสร้อย ยังไม่อยากกลับอ่ะ

ขากลับไกด์ไม่ไปกับเรา บอกว่าจะอยู่ใช้วันหยุดอยู่บ้าน เสร็จฉ๊าน ลามะน้อยเสร็จฉ๊าน

ขากลับฉันยกกล้องไม่ได้เลย ไกด์คงสั่งลามะน้อยเอาไว้ ถ้าฉันอยากถ่ายรูปให้หยุดรถให้ด้วย พอยกกล้องขึ้น เธอค่อยๆ เบรกหยุดรถให้ ทุกทีที่ยก จนป้าแตงแซวว่า อย่างนี้ เราคงถึงกังต็อกสี่ทุ่มแน่ๆ แค่นั้นแหละ ฉันวางกล้องไว้บนตัก นั่งมองวิว เหล่มองลามะน้อยแทน..

ขับมาได้สักพัก โชดะหยุดให้เราถ่ายรูปที่น้ำตก เมื่อวานเราผ่านแล้ว แต่มันมืดแล้ว มองอะไรไม่เห็น

ระหว่างทางเจอรถติดหล่ม ต้องรอให้เคลียร์ทางก่อนถึงจะไปได้ ดับเครื่องเข้าคิวกัน นั่งดูว่าเค้าจะเอาไงกัน วิ่งถนนเส้นนี้ กะเกณฑ์เวลาไม่ได้ แต่ฉันชอบนะ ชิวๆ ลุยๆ ดี ไม่ต้องรีบไปไหน โลกหยุดหมุนที่ลาชุง

ขากลับ โชดะตีรถยาวมาก ไม่แวะที่ไหนเลย ประมาณ 3-4 ชั่วโมงเห็นจะได้ เราไม่กินน้ำกันเยอะ เพราะรู้ว่าห้องน้ำหายาก จนใกล้ถึงน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ฉันขอให้โชดะจอดให้เข้าห้องน้ำหน่อย เราแวะเข้าห้องน้ำ จิบชา กินโมโม่ร้อนๆ กัน

ถ่ายรูปร่วมกันครั้งสุดท้ายก่อนตีรถยาวเข้ากังต็อก

จากจุดนี้ไปอีกประมาณ 1.5 - 2 ชั่วโมง คิดว่าคงถึงกังต็อกไม่ค่ำ ที่ไหนได้ รถเราติดหล่ม อยู่กลางป่า ลามะน้อยลองแล้วลองอีก ไม่ขึ้นหว่ะ ถอยแล้วขึ้น ถอยแล้วขึ้นอยู่หลายรอบ ทำไงก็ไม่ขึ้น เหยียบจนครัชต์เหม็นไหม้ อากาศเริ่มเย็น ท้องฟ้าเริ่มมืด เราถามโชดะว่าจะให้ลงรถมั๊ย (แต่ไม่เข็นให้นะ เข็นไม่ไหว) เจ้าโชดะบอกไม่ต้อง เราเลยนั่งลุ้นกันอยู่ในรถ นั่งกันเงียบ ไม่กล้าถ่ายรูป ลุ้นอย่างเดียว เห็นรถจิ๊ปตามหลังมาอยู่เรื่อยๆ ค่อยอุ่นใจหน่อย เพื่อนโชดะแซงหน้าไป ขอลองมั่ง ทีเดียวจอด รถคันเล็กกว่าไปฉิว ผ่านได้สบาย หรือคันที่ทุกหนักกว่า ก็สบายเหมือนกัน รถเราคนน้อยน้ำหนักเบาโยกไม่ขึ้น เจ้าโชดะเลยให้เพื่อนๆ ที่อยู่ในรถคันอื่น อัดเข้าข้างหลัง ตรงที่เราวางเป้ แล้วลองใหม่ ทีเดียวผ่าน ... นึกว่าได้นอนกลางป่าอินเดียซะแล้ว ...

เราถึงกังต็อกเริ่มมืดแล้ว เจ้าโชดะส่งเราที่ jeep stand ฉันเลยขอให้เรียกแท๊กซี่ให้ ลามะน้อยวิ่งขึ้นชั้นสอง หายไปสิบนาที กลับมาพร้อมกะป๊อ เราย้ายของจากรถจี๊ปขึ้นกะป๊อ ร่ำลาโชดะ พร้อมยื่นทิปให้ 500 รูปี (ถึงป้าจะแทะโลมหนัก ป้าก็ทิปหนักน๊า) โชดะมองแบงค์ 500 ด้วยสายตาประหลาดใจแกมดีใจ สายตารอยยิ้มเป็นประกายลิงโลดเชียว แววตาเด็กน้อยจริงๆ โอ๊ยลืมไป นายแค่ 18 ปีเอง

เราจองโรงแรมเดิมไว้ แต่คราวนี้ได้ชั้นห้า มีลิฟท์ แต่โรงแรมไม่ให้ใช้ แบกเป้ 12 โล กันหลังแอ่น หลังจากเช็คอินเข้าโรงแรม เราแวะบริษัททัวร์พี่ชายโชดะที่อยู่ข้างโรงแรม ถามหารถไปดาร์จีลิง เค้าบอกรถหายาก ช่วงเทศกาล ราคาประมาณ 3000-3500 เราถามขอโชดะเป็นคนขับรถได้ม้า? พี่ชายโชดะรีบตอบ ถ้าเป็นโชดะ ต้อง 6000 ฉันพูดทีเล่นทีจริง 'i pay' รู้แล้วน่า ว่านายไปไม่ได้ พรุ่งนี้นายมีคิวขับไปลาชุงต่อ

สรุปเราได้รถจากลามะทัวร์ เป็นรถเก๋งเล็ก แต่นั่งกันไปได้ เราจะออกจากกังต็อกหลังจากกลับมาจากทะเลสาบชางกู่.. night Gangtok!

1 comment:

  1. รู้แล้วว่าทำไมเจ้ยไม่เมารถ...มัวแต่มองคนขับละซิ..ฮี่ๆๆ

    ReplyDelete